อาสาฯ ทดลองวัคซีนต้านโควิดของอ็อกซ์ฟอร์ดเสียชีวิตรายแรก

นักวิทย์ฯ-วงการแพทย์เร่งสอบ หลังแพทย์วัย 28 ปี อาสาสมัครทดลองวัคซีนต้านโควิดของ ม.อ็อกซ์ฟอร์ด เสียชีวิตเป็นรายแรกที่บราซิล ญาติเผยก่อนหน้านี้สุขภาพแข็งแรง

Australia's first locally made COVID-19 mRNA vaccine candidate is set for clinical trials

Australia's first locally made COVID-19 mRNA vaccine candidate is set for clinical trials Source: AAP

เมื่อวานนี้ (21 ต.ค.) อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านไวรัสโควิด-19 โดยมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด เสียชีวิตในประเทศบราซิล แม้ว่าจะมีการรายงานทางสื่อว่า อาสาสมัครคนดังกล่าวได้รับยาหลอก (Placebo) ไม่ใช่วัคซีนที่อยู่ระหว่างการพัฒนา

การเสียชีวิตในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการรายงานในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จากบรรดาหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลก   

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานซึ่งจัดทำการวิจัยและพัฒนาระบุว่า การสอบสวนอิสระได้สรุปว่าไม่มีความกังวลด้านความปลอดภัย และการทดสอบวัคซีนต้านไวรัสที่พัฒนาโดยบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) จะยังคงดำเนินต่อไป

รายงานในสื่อระบุว่า อาสาสมัครคนดังกล่าวเป็นแพทย์วัย 28 ปี ซึ่งเป็นคนทำงานแถวหน้าในการรับมือกับไวรัสโคโรนา ซึ่งเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนของไวรัสโควิด-19 

“ทุกอุบัติเหตุทางการแพทย์ที่มีความเฉพาะเจาะจง แม้ว่าผู้ร่วมการทดลองจะอยู่ในกลุ่มควบคุม หรือกลุ่มควบคุมของวัคซีนไวรัสโควิด-19 ก็ตาม จะได้รับการสอบสวนอย่างอิสระทั้งหมด” แถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดระบุ

“จากการประเมินอย่างระมัดระวังในกรณีดังกล่าวที่ประเทศบราซิล ไม่พบความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทดลองทางคลินิก และการสอบสวนอิสระเพิ่มเติมร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลในบราซิล ได้แนะนำว่าการทดลองสามารถดำเนินต่อไปได้”

Anvisa หน่วยงานกำกับดูแลด้านสาธารณสุขของบราซิล ยืนยันว่า ได้รับการแจ้งเตือน “อย่างเป็นทางการ” เกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา และได้รับรายงานจากการสอบสวนอิสระจากคณะกรรมการด้านความปลอดภัยและการประเมินผล ซึ่งกำกับดูแลการศึกษาวิจัยดังกล่าว 

D'Or Teaching and Research Institute (IDOR) ซึ่งได้อำนวนการศึกษาทดลองในประเทศบราซิล กล่าวว่า กระบวนการสอบสวนอิสระนั้นไม่พบข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของการศึกษาวิจัยดังกล่าว และแนะนำว่าให้สามารถดำเนินการต่อไปได้
The D'Or Teaching and Research Institute has said that the independent review process raised no concerns and that the study would go on.
The D'Or Teaching and Research Institute has said that the independent review process raised no concerns and that the study would go on. Source: The D'Or Teaching and Research Institute
ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด และบริษัท แอสตราเซเนก้า ได้หยุดการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังอาสาสมัครร่วมทดลองชาวอังกฤษได้มีอาการเจ็บป่วยซึ่งไม่สามารถให้คำตอบได้ โดยการทดลองได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังหน่วยงานกำกับดูแลในอังกฤษ และการสอบสวนอิสระสามารถสรุปอาการเจ็บป่วยดังกล่าวได้ว่าไม่ใช่ผลข้างเคียงจากวัคซีนต้านไวรัส

IDOR ระบุอีกว่า อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งในขั้นตอนการทดลองทางคลินิกในขั้นตอนสุดท้าย การทดลองแบบอำพราง (double-blinded) รวมถึงการทดลองสุ่มที่มีการควบคุมนั้นได้รับยาหลอก (placebo) โดยจนถึงขณะนี้ มีอาสาสมัครเข้าร่วมการทดลองที่ได้รับวัคซีนไปแล้วประมาณ 8,000 คนในบราซิล และมากกว่า 20,000 คนทั่วโลก

โดยผู้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในการทดลองวัคซีนนั้นจะต้องเป็นแพทย์ พยาบาล หรือคนทำงานด้านสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งสัมผัสกับไวรัสโคโรนาเป็นประจำ 

Globo หนังสือพิมพ์ของบราซิล รายงานว่า อาสาสมัครทดลองวัคซีนที่เสียชีวิตคนดังกล่าวเป็นแพทย์ที่อายุยังน้อย ซึ่งกำลังให้การรักษากับผู้ป่วยโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมาทั้งในห้องฉุกเฉิน และแผนกผู้ป่วยวิกฤตในโรงพยาบาล 2 แห่ง ที่กรุงริโอ เดอ จาเนโร

โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิต ระบุว่า แพทย์คนดังกล่าวสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์เมื่อปีก่อน และมีสุขภาพแข็งแรงก่อนที่จะได้รับเชื้อไวรัสโคโรนา


คุณสามารถอ่านข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) เป็นภาษาไทยได้

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 22 October 2020 12:38pm
Updated 22 October 2020 12:50pm
Presented by Tinrawat Banyat
Source: AFP, SBS


Share this with family and friends