ตั้งแต่เวลา 5:00 น. ของเช้าวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป (28 ก.ย.) จะมีการยกเลิกมาตรการห้ามออกจากเคหสถานในยามวิกาล ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในรัฐวิกตอเรียลดลงอย่างต่อเนื่อง
LISTEN TO
VIC คลายหลายมาตรการสกัดโควิด ยกเลิกเคอร์ฟิวพรุ่งนี้
SBS Thai
27/09/202005:18
โดยในวันนี้ (27 ก.ย.) รัฐวิกตอเรียบันทึกยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ได้ 16 ราย และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 14 วัน ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์น ลดลงมาเหลือ 22.1 ราย
จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้มีการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในหลายส่วนเร็วกว่าเวลาที่กำหนดไว้ในตอนแรก ซึ่งรวมถึงข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- อนุญาตให้ลูกจ้างกว่า 127,000 คน สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ
- อนุญาตให้นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติ ก่อนวันที่ 12 ต.ค.นี้
- การกลับมาเปิดให้บริการสถานดูแลเด็กเล็กอีกครั้ง
- ยกเลิกข้อกำหนดในการซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ที่กำหนดให้ทำได้เพียง 1 คนต่อ 1 ที่พักอาศัยในแต่ละวัน
- อนุญาตให้จัดพิธีสมรสได้อีกครั้ง โดยมีผู้ร่วมงานไม่เกิน 5 คน ซึ่งรวมคู่บ่าวสาว และพยานในพิธี
- การรวมกลุ่มนอกสถานที่ ซึ่งทำได้ไม่เกิน 5 คน จากสมาชิกในที่พักอาศัยไม่เกิน 2 ครัวเรือน
นายแดเนียล แอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า แม้จะมีการยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิว แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการกำหนดบทลงโทษปรับใหม่ เป็นจำนวนเงิน $5,000 ดอลลาร์ สำหรับผู้ฝ่าฝืนมาตรการจำกัดการรวมกลุ่ม
เราใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีในการต่อสู้กับสิ่งนี้ และมันไม่เหมาะสมที่คุณจะไปเยี่ยมเพื่อน ไปรวมกลุ่มกันในลานจอดรถ หรือที่ไหนก็ตามแต่ หลายสิ่งที่เราเห็นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้ลดน้อยลงเมื่อไม่นานมานี้ นั่นจะทำให้ทุกสิ่ง รวมถึงสิ่งที่ชาวรัฐวิกตอเรียได้ร่วมด้วยช่วยกันมานั้นตกอยู่ในความเสี่ยง นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรียได้คาดการณ์ว่า การผ่อนคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดในครั้งต่อไปนั้น จะมีขึ้นอีกในวันที่ 19 ต.ค.นี้ ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมเป็นเวลา 1 สัปดาห์
การตัดสินใจยกเลิกมาตรการเคอร์ฟิวนั้น อยู่บนพื้นฐานของคำแนะนำจากชุดทำงานด้านสาธารณสุข โดย นายเบร็ตต์ ซันทัน (Brett Sutton) หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวนั้น “ไม่มีความเหมาะสมอีกต่อไป”
ขณะที่ข้อจำกัดในการไปจับจ่ายซื้อของที่กำหนดให้ทำได้เพียง 1 คน ต่อ 1 ที่พักอาศัยในแต่ละวันนั้นจะได้รับการยกเลิก แตะอย่างไรก็ตาม มุขมนตรีได้ย้ำในส่วนนี้ว่า “นี่ไม่ใช่การเชิญชวนให้ทั้งครอบครัวออกไปจับจ่ายซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต”
ในส่วนของโรงพยาบาลนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้ให้การดูแล 2 คน จะได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยทีมีอายุ 18 ปีขึ้นไป ขณะที่บริการด้านศาสนาและความเชื่อนั้น กำหนดให้มีผู้เข้าร่วมได้ไม่เกิน 5 คนนอกสถานที่ ซึ่งรวมผู้นำพิธีด้วย ส่วนพิธีสมรสนั้น ได้กำหนดให้มีผู้เข้าร่วมพิธีได้ไม่เกิน 5 คน โดยร่วมคู่บ่าวสาว และพยานอีก 2 คน ในการจัดพิธีนอกสถานที่
สำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตทำงานนั้น สามารถไปออกกำลังกายนอกสถานที่ทำงานไม่เกิน 5 กิโลเมตร
เราดำเนินการก่อนเวลาที่กำหนด เรามีความคืบหน้ามากกว่าที่เราคาดไว้ในจุดนี้ เราต้องจับตาดูว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าว
จากผลลัพธ์ของความคืบหน้าดังกล่าว นายแอนดรูส์ได้เปิดเผยว่า จะมีการคลายมาตรการจำกัดการแพร่ระบาดตามแผนแม่บท ในพื้นที่มหานครเมลเบิร์นอีกครั้งในวันที่ 19 ต.ค.นี้
แต่จุดที่จะกระตุ้นให้เกิดการผ่อนคลายมาตรการอีกขั้นในครั้งต่อไปนั้น จะไม่ใช่เรื่องของวันเวลาอีกต่อไปตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยมุขมนตรีรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า จะเป็นเรื่องของการทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยต่อ 2 สัปดาห์นั้นน้อยกว่า 5 รายลงไป
ภายใต้แผนแม่บทต้นฉบับ ซึ่งได้มีการประกาศไปเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา การผ่อนคลายมาตรการจำกัดในขั้นต่อไปนั้น มีการกำหนดไว้ในวันที่ 26 ต.ค.นี้
ตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.นี้ นักเรียนประกาศนียบัตร VCE และ VCAL จะสามารถกลับไปเรียนได้ตามปกติ และในวันที่ 12 ต.ค.นี้ จะมีการอนุญาตให้นักเรียนประถมศึกษาทยอยกลับมาเรียนตามปกติที่โรงเรียนในทุกชั้นเรียน
ศาสตราจารย์แอลเลน เช็ง (Allen Cheng) รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า แบบจำลองข้อมูลไวรัสโคโรนา ได้แสดงให้เห็นว่ารัฐวิกตอเรียนั้น “ยังคงอยู่ในแนวทาง และอาจล้ำหน้าไปเล็กน้อย” ในจุดที่ได้มีการคาดไว้ ซึ่งก็คือช่วงปลายเดือนกันยายนนี้
ในส่วนของการตัดสินใจที่จะเปิดสถานศึกษาก่อนกำหนดนั้น ศาสตราจารย์เช็งกล่าวว่า นักเรียนประถมศึกษานั้นมีความเสี่ยงต่ำในการได้รับและแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา
“แบบจำลองใหม่ได้ชี้ว่า มันมีความปลอดภัยที่จะในนักเรียนประถมศึกษากลับไปเรียนที่สถานศึกษา ในสัปดาห์แรกของภาคเรียนที่ 4” ศาสตราจารย์เช็งกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเริ่มต้นนั้น พบคนทำงานในสถานศึกษา 139 ราย และนักเรียน 373 ราย ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ แผนแม่บทที่ได้มีการทบทวนอีกครั้งนั้น ได้มีการเผยแพร่หลังจากที่ นางเจนนี มิคาโคส รัฐมนตรีด้านสุขภาพรัฐวิกตอเรียได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในรัฐสภารัฐวิกตอเรีย โดยได้กล่าวว่า
ดิฉันไม่ต้องการออกจากตำแหน่งโดยที่ภาระหน้าที่ยังไม่เสร็จสิ้น แต่เนื่องจากแถลงการณ์ของมุขมนตรีไปยังคณะกรรมาธิการไต่สวนหาข้อเท็จจริง และข้อเท็จจริงที่ว่า มีสิ่งที่ดิฉันไม่เห็นด้วยอย่างมากในแถลงการณ์นั้น ดิฉันเชื่อว่า ดิฉันไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ภายในคณะรัฐบาลของเขาได้ ดิฉันไม่เคยหลบหนีจากภาระหน้าที่ในกระทรวง แต่มันไม่ใช้ความรับผิดชอบของดิฉันเพียงผู้เดียว ส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ของนางมิคาโคส ซึ่งแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (26 ก.ย.)
นายแอนดรูส์ มุขมนตรีรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า นายมาร์ติน โฟลีย์ (Martin Foley) รัฐมนตรีด้านสุขภาพจิต จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขต่อไป
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจจาก เอสบีเอส ไทย
พบนศ.ต่างชาติไม่น้อยถูกเหยียดเชื้อชาติช่วงโควิด
