หรือแมคโดนัลด์จะขายอาหารเจ?

NEWS: กระแสมังสวิรัติมาแรง ร้านฟาสต์ฟูดชื่อดังหลายร้านผุดเมนูเจที่รสชาติและหน้าตาเหมือนกับเนื้อจริงๆเอาใจคนไม่รับประทานเนื้อสัตว์

Massive US fast food chains added plant-based burgers to their permanent menus

ร้านขายอาหารฟาสต์ฟูดธุรกิจเครือข่ายอาหารชื่อดังเริ่มนำเมนูเจมาจำหน่ายเพื่อเอาใจคนรับประทานมังสวิรัติที่มีจำนวนมากขึ้น Source: Pixabay

ในสหรัฐอเมริการ้านฟาสต์ฟูดหรือร้านอาหารจานด่วนที่มีเครือข่ายหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นร้าน คาลส์ จูเนียร์ (Carls Jr.) หรือ ร้าน ไวท์คาสเซิล (White Castle) และล่าสุดก็คือร้าน เบอร์เกอร์คิง (Burger King) ต่างมีเมนูเบอร์เกอร์เจเพิ่มขึ้นมานอกเหนือจากเมนูเนื้อซึ่งเป็นเมนูหลักของพวกเขาในสนนราคาเท่าๆ กัน

ขณะที่เมนูโปรตีนที่ปราศจากเนื้อได้รับความนิยมมากขึ้นจนมีการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สถานการณ์นี้ทำให้ ร้าน เค เอฟ ซี (KFC) ได้ออกมาแจ้งว่าพวกเขาจะลองขายผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของบริษัท บียอนด์ มีท (Beyond Meat) ที่มีชื่อว่า บียอนด์ ฟราย ชิกเก้น (Beyond Fried Chicken) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้เนื้อเป็นส่วนประกอบ และจะทดลองจำหน่าย ที่ร้านในนครแอตแลนตา (Atlanta) เป็นร้านแรกและร้านเดียวก่อน

ในขณะที่ในเดือนตุลาคมนี้ ร้าน ฮังกรี แจ็กส์ (Hungry Jacks) ได้ออกเมนู รีเบล วอปเปอร์ (Rebel Whopper) ซึ่งเป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่นำโปรตีนจากพืชมาใช้แทนเนื้อมาให้ลูกค้าลิ้มลอง
An original hamburger
ร้านอาหารฟาสต์ฟูดชื่อดังเริ่มเอาเมนูเจมาขายควบคู่กับเมนูเนื้อต่างๆ Source: Pixabay
ในออสเตรเลียพบว่า มีผู้คนที่หันมารับประทานอาหารที่ปราศจากเนื้อและถือมังสวิรัติมากขึ้น (ในปี 2018 ประชากรชาวออสเตรเลียที่ไม่รับประทานเนื้อมีจำนวนกว่า 2 ล้านคน) ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เนื้อเจที่มีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์เป็นที่ต้องการมากขึ้นด้วย

ผลิตภัณฑ์เนื้อเจที่ว่านี้ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เช่น อิมพอสสิเบิล เบอร์เกอร์ (Impossible Burger) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจาก แป้งสาลี โปรตีนจากมันฝรั่ง หัวบีทรูท และโปรตีนจากถั่วเหลืองที่ตัดแต่งพันธุกรรม ผลิตภัณฑ์เนื้อเจนี้เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกเพราะว่าเวลานำไปปรุงอาหารโดยผ่านความร้อนแล้วจะมีสีคล้ายกับเลือดซึมออกมาเหมือนกับเนื้อจริงๆ

จากการวิจัยของสถาบัน ดีลอยต์ แอคแซส อีโคโนมิกส์) เปิดเผยว่า ภายในปี 2030 คาดว่าตลาดของผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชในออสเตรเลียจะมีมูลค่าราวสามพันล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มที่จะมีการสร้างงานในอุตสาหกรรมนี้กว่า 6,000 ตำแหน่ง

ผลิตภัณฑ์เนื้อเจกับตลาดอาหารของออสเตรเลีย

ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์ อิมพอสสิเบิล เบอร์เกอร์ (Impossible Burger) ที่ดูเหมือนเนื้อจริงๆ เวลาปรุงอาหาร ยังไม่มีจำหน่ายในออสเตรเลีย แต่บริษัทในเครือฟาสต์ฟูดเจที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย อย่างร้าน ลอร์ด ออฟ เดอะ ฟรายส์ (Lord Of The Fries) ก็ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อเจ ที่มีชื่อว่า บียอนด์ มีทส์ (Beyond Meats) ซึ่งทำมาจากโปรตีนถั่วฝักเมล็ดกลมมาจำหน่ายในออสเตรเลียแล้ว คุณ มาร์ค  โครอนสกี (Mark Koronczyk) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ลอร์ด ออฟ เดอะ ฟรายส์ (Lord Of The Fries) กล่าวว่า

“เราพยายามเป็นผู้นำของผู้จัดจำหน่ายอาหารเจ และใส้แฮมเบอร์เกอร์เนื้อเจนี้ก็ได้รับความนิยมมาก” คุณ มาร์ค โครอนสกี ชี้ เขากล่าวต่อไปอีกว่า

“มันมีรสชาติคล้ายกับเนื้อมาก และมันดีกับสำหรับสิ่งแวดล้อมมากกว่าเนื้อด้วย พวกเขาสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้ถั่วเหลืองเป็นส่วนประกอบ เพราะคนค่อนข้างเป็นกังวลกับเรื่องนี้” คุณ มาร์ค โครอนสกี อธิบาย ปัจจุบันผู้บริโภคที่มีความตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเกิดความกังวลกับเรื่องถั่วเหลืองที่มีการตัดแต่งพันธุกรรมมากขึ้น
a vegan hamburger
เนื้อเจที่มีรสชาติและหน้าตาใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น Source: Pixabay
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ของ บียอนด์ เบอร์เกอร์ (Beyond Burger) ได้ดึงดูดผู้บริโภคที่นิยมรับประทานเนื้อรวมถึงคนที่ชอบลองอะไรใหม่ๆ แต่อีกด้านหนึ่งคุณสมบัติที่เหมือนเนื้อเกินไปนี้ทำให้คนที่รับประทานมังสวิรัติไม่ชอบ ตัวอย่างเช่น คุณ มาร์ค  โครอนสกี ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่รับประทานมังสวิรัติ เขาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า

“ในฐานะที่เป็นคนรับประทานมังสวิรัติคนหนึ่ง ผมชอบผลิตภัณฑ์ตัวเดิมของเรามากกว่า เพราะผมรู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ของบียอนด์ (Beyond Meats) มีรสชาติคล้ายเนื้อมากเกินไป” คุณ มาร์ค  โครอนสกี เปิดเผย
the genetic modification of soy have been on the increase amongst health and environmentally conscious consumers.
คนเริ่มกังวลกับผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากถั่วเหลืองที่ตัดแต่งพันธุกรรม Source: Pixabay
ในขณะที่อาหารมังสวิรัติถูกมองว่าเป็นอาหารทางเลือกที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ แต่ผลิตภัณฑ์เนื้อเจเหล่านี้ กลับมีปริมาณ แคลอรี ไขมัน และ โซเดียม มากกว่าผลิตภัณฑ์อาหารเจแบบดั้งเดิม ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ บียอนด์ เบอร์เกอร์ (Beyond Burger) ต้นตำหรับที่ร้าน ลอร์ด ออฟ เดอะ ฟรายส์ (Lord Of The Fries) นำมาจำหน่าย มีปริมาณแคลอรี มากกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากโปรตีนพืชแบบเดิมถึง 800 กิโลจูล ในขณะที่มีปริมาณไขมันมากขึ้นถึง 2 เท่าด้วย
คุณ มาร์ค  โครอนสกี เปิดเผยว่า การตัดสินใจนำเข้าผลิตภัณฑ์ บียอนด์ มีทส์ (Beyond Meats) ก็เพราะว่าบริษัทต้องการรักษาระดับของผลิตภัณฑ์อาหารเอาไว้ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลขึ้นเรื่อยๆ เขากล่าวว่าทางบริษัทกำลังพิจารณาว่าจะนำผลิตภัณฑ์ อิมพอสสิเบิล เบอร์เกอร์ (Impossible Burger) มาจำหน่ายด้วย

อนาคตของการบริโภคเนื้อ

ขณะที่โลกกำลังชื่นชมกับผลิตภัณฑ์เนื้อเทียมที่ดูเสมือนจริง แต่ ศาสตราจารย์ โรบิน วาร์นเนอร์ หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์อาหารที่เกี่ยวกับเนื้อ จากมหาวิทยาลัย เมลเบิร์น ได้คาดการณ์เกี่ยวกับอุปสรรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการที่ออสเตรเลียไม่ควรพึ่งพาการนำเข้าโปรตีนจากพืชที่ส่วนมากมาจากต่างประเทศเพียงอย่างเดียว เราควรจะหาทางลดขยะและนำเอาผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้มาใช้ เขาชี้ว่า

“ในการผลิต น้ำมันแฟลกซีด (flaxseed oil) เราจะได้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้ ซึ่งมีปริมาณโปรตีนสูง ซึ่งอาจนำมาผสมในไส้กรอก หรือ เบอร์เกอร์ได้"  ศาสตราจารย์ โรบิน วาร์นเนอร์ ยกตัวอย่าง
plant based food
ในอนาคตอันใกล้จะมีการนำเอาผลิตภัณฑ์อาหารเจที่ทำมาจากเซลล์สัตว์มาจำหน่าย Source: Pixabay
อีกเรื่องหนึ่งที่เพิ่มความกังวลใจก็คือการนำเอาเซลล์จากสัตว์มาใช้ในการผลิตอาหาร ศาสตราจารย์ โรบิน วาร์นเนอร์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า

“อ้างอิงจากบริษัทผู้ผลิตเนื้อเทียมต่างๆ พบว่าผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากสกัดเอาเซลล์ของสัตว์จะออกมาสู่ท้องตลาดภายในปีหรือสองปีนี้ ซึ่งมันก็จะมีอุปสรรคมากมายตามมาด้วย เช่น การตรวจสอบว่าเซลล์นั้นเติบโตอย่างถูกต้องหรือไม่ ยกระดับการผลิตให้ทำเป็นการค้าได้ ปัญหาเกี่ยวกับการยอมรับของผู้บริโภคซึ่งจะเปรียบเทียบว่ารสชาติและผิวสัมผัสจะเหมือนกับเนื้อแค่ไหนด้วย”  ศาสตราจารย์ โรบิน วาร์นเนอร์ สรุป

หากคุณกำลังตั้งตารอแฮมเบอร์เกอร์ที่เป็นผลผลิตจากห้องทดลองของแมคโดนัลด์แล้วล่ะก็... เราอยากบอกคุณว่าอย่าไปหวังกับเรื่องนี้เลย

You can read the full article in English on SBS's The Feed page 

รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์  ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ

ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่ 

Share
Published 15 October 2019 9:43am
Updated 15 October 2019 10:31am
By Velvet Winter
Presented by Chayada Powell
Source: The Feed

Share this with family and friends