มีการรณรงค์ให้ผู้คนในออสเตรเลีย ไปอุดหนุนร้านอาหารจีนใกล้บ้าน หลังความหวาดกลัวเชื้อไวรัสโคโรนาทำให้จำนวนลูกค้าของธุรกิจชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีนหดหาย
บางธุรกิจกล่าวว่า พวกเขาสูญเสียรายได้ไปกว่าร้อยละ 50 เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และความหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผลสมควรเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
กลุ่มนักเคลื่อนไหว เก็ตอัพ! (GetUp!) กำลังใช้การรณรงค์ดังกล่าวที่ใช้ชื่อว่า #IWillEatWithYou เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้น
กลุ่มเก็ตอัพ! ที่อ้างว่ามีสมาชิกของกลุ่มทั่วประเทศกว่า 1 ล้านคน ได้แจ้งไปยังสมาชิกและขอให้พวกเขาช่วยกันไปอุดหนุนร้านอาหารจีนและร้านอาหารเอเชียใกล้บ้าน
“ขณะที่ร้านอาหารประเภทอื่นและสถานที่สถานธารณะอื่นๆ กำลังมีผู้คนพลุกพล่าน แต่ร้านอาหารในย่านไชนาทาวน์และร้านขายของชำเอเชียกลับว่างเปล่าไร้ลูกค้า” กลุ่มเก็ตอัพ! ระบุในโพสต์ออนไลน์
“ความตื่นตระหนกเกี่ยวกับไวรัสส่งผลกระทบอย่างไม่ยุติธรรมต่อชุมชนชาวจีนและชาวเอเชีย”
“หากเราไม่ทำอะไรเรื่องนี้ ผู้คนจะต้องตกงาน และสูญเสียทางทำมาหากิน”
ร้านอาหาร เกรน เอเชียน คาเฟ ในย่านบอกซ์ฮิลล์ ของเมลเบิร์น ที่เคยมีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสาย เผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา ร้านสูญเสียรายได้ไปกว่าครึ่ง ทำให้ร้านต้องแจ้งให้ลูกจ้างแคชชวลของร้านมองหางานอื่นทำไปพลางๆ ก่อน
“มันน่าอัศจรรย์จริงๆ ที่ผู้คนหายหน้ากันไปหมดอย่างรวดเร็ว” คุณสตีเฟน เซง เจ้าของร้าน กล่าว
ร้านสวีต คิงดอม ที่ตั้งอยู่ในย่านบอกซ์ฮิลล์ กล่าวว่า รายได้ของร้านหดหายไปกว่าร้อยละ 40 โดยคิดเป็นการขาดรายได้กว่าวันละ 1,000 ดอลลาร์
“ในศูนย์การค้านี้ แทบจะร้างผู้คน ขณะที่ปกติจะมีคนแน่นไปหมด” คุณริชาร์ด ชี เจ้าของร้านสวีต คิงดอม ระบุ
รศ.การ์เรตต์ เพรสเทจ ของมหาวิทยาลัย UNSW โพสต์ในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับย่านขายอาหารที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของซิดนีย์ ซึ่งขณะนี้เงียบเหงาลง
“ผู้คนช่างทำอะไรอย่างไร้เหตุผลเสียจริงๆ!” เขาโพสต์ออนไลน์
“เราไปที่ย่านไชนาทาวน์เมื่อเย็นนี้ และจริงทีเดียว ที่ย่านนี้กลับร้างผู้คน มีร้านหลายแห่งที่ปิด”
เขาหวังว่า การที่ผู้คนทั่วไปตระหนักถึงความยากลำบากที่ธุรกิจชาวจีนกำลังเผชิญ จะช่วยให้ลูกค้าหวนกลับไปอุดหนุนธุรกิจเหล่านั้นตามเดิม
คุณแจน ไวล์ด ประชาชนในควีนสแลนด์ เป็นผู้หนึ่งที่หวังว่าจะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
“โปรดอย่าปล่อยให้ธุรกิจต่างๆ ต้องถูกทำลายไปจากการเหยียดเชื้อชาติและการตื่นกลัวจนเกินกว่าเหตุ” เธอกล่าวในโพสต์ทางอิสตาแกรม
“ฉันจะไปกินอาหารที่ร้านเอเชียในสัปดาห์นี้ คุณล่ะ จะไปไหม”
ขณะเดียวกัน คุณซูซี โคล โพสต์ในเฟซบุ๊กแชร์ภาพครอบครัวของเธอกำลังรับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยที่ร้านอาหารจีนใกล้บ้านแห่งหนึ่ง
“เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครอบครัวของเรา ไปกินที่ร้านอาหารจีน ฮาร์โมนี และไม่ได้วิตกอะไรเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส หรืออื่นๆ” เธอเขียนในโพสต์
“โปรดช่วยกันอุดหนุนร้านอาหารจีนต่างๆ ที่คุณรัก โปรดไปเยือนชุมชนที่ประสบไฟป่าในพื้นที่ชนบท และใช้เงินกันที่นั่น ธุรกิจขนาดเล็กต่างๆ กำลังต้องการลูกค้า เพื่อจะได้อยู่รอด”
ชื่อของโครงการรณรงค์ #IWillEatWithYou ได้แรงบันดาลใจมาจากการร่วมใจกันทางสื่อสังคมออนไลน์ หลังเหตุการณ์จับตัวประกันที่ลินดต์ คาเฟ ในซิดนีย์ ในปี 2014 ซึ่งก่อให้เกิดการรณรงค์ทางสื่อสังคมออนไลน์ ภายใต้ชื่อ #IllRideWithYou ที่ชาวออสเตรเลียทั่วไปต่างร่วมกันแสดงความเห็นอกเห็นใจชาวมุสลิมในออสเตรเลีย ที่อาจถูกมองด้วยอคติหรือสายตาเหยียดหยามหลังเหตุการณ์จับตัวประกันดังกล่าว
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ธุรกิจย่านคนจีนซบเซาจากความกลัวไวรัสโคโรนาในออสเตรเลีย
รายการ เอสบีเอส ไทย ออนไลน์ ออกอากาศสดหนึ่งชั่วโมงเต็ม กดฟังได้ที่เว็บไซต์ ทุกจันทร์และพฤหัสบดี 22.00 น. (เวลาซิดนีย์/เมลเบิร์น) หลังจากนั้นฟังซ้ำได้ทุกเมื่อ
ติดตาม เอสบีเอส ไทย ทางเฟซบุ๊กได้ที่
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย
ผลโพลชี้ไฟป่ากระทบชาวออสเตรเลีย 75%
