วิกตอเรียกับเอซีทีประกาศภาวะฉุกเฉินจัดการวิกฤตโคโรนา

มุขมนตรีวิกตอเรีย แดเนียล แอนดรูว์ กล่าวว่า การประกาศนี้ทำให้รัฐมีอำนาจบังคับให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียทุกคนต้องแยกตัวเพื่อกักกันโรค 14 วัน แบบภาคบังคับ

Victorian Premier Daniel Andrews took aim at the homeowner flying the Nazi flag.

Victorian Premier Daniel Andrews Source: AAP

การประกาศภาวะฉุกเฉินดังล่าว ได้เริ่มมีผลในรัฐวิกตอเรียและเขตนครหลวงของออสเตรเลีย (เอซีที) ในวันจันทร์วันนี้ (16 มี.ค.) เป็นต้นไป ขณะที่รัฐบาลของรัฐมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้นเพื่อพยายามจำกัดการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

มุขมนตรีแอนดรูว์ บอกกับ ผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อำนาจภายใต้พระราชบัญญัติด้านสุขภาพและสวัสดิภาพที่ไม่เคยถูกใช้มาก่อน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถบังคับให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในออสเตรเลียทุกคน ต้องแยกตัวเองเพื่อกักกันโรค (self-isolation) เป็นเวลา 14 วัน

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ได้ประกาศในวันอาทิตย์เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทุกคนต้องแยกตัวเองเพื่อกักกันโรค (self-isolation) เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้การท่องเที่ยวจากต่างประเทศของออสเตรเลียแน่นิ่งไปชั่วขณะ

ในรัฐวิกตอเรียนั้น ภาวะฉุกเฉินที่ว่าจะเริ่มตั้งแต่เที่ยงวันนี้ (จันทร์ 16 มี.ค.) และในช่วงแรกจะดำเนินไปเป็นเวลา 4 สัปดาห์ และมีความเป็นไปได้ว่าอาจดำเนินต่อไปหลังจากนั้น มุขมนตรีแอนดรูว์ กล่าว

การประกาศนี้ จะให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ในการควบคุมตัวประชาชน จำกัดความเคลื่อนไหว และป้องกันไม่ให้บุคคลเข้าสถานที่บางแห่งเพื่อปกป้องสาธารณชน

ผู้ใดที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพ อาจถูกปรับ 20,000 ดอลลาร์ภายใต้การประกาศนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสุขภาพของรัฐวิกตอเรีย เผยว่า มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับการยืนยันแล้วในวิกตอเรีย รวมทั้งสิ้น 71 ราย หลังมีการพบผู้ถูกยืนยันว่าติดเชื้อรายใหม่ 14 รายในข้ามคืนที่ผ่านมา

ไม่นานหลังการประกาศของรัฐวิกตอเรีย เอบีซี นิวส์ ได้รายงานว่า นายแอนดรูว์ บาร์ หัวหน้ารัฐมนตรีของเอซีที จะประกาศภาวะฉุกเฉินเช่นกัน หลังจากมีรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นรายที่ 2 ในเอซีทีเมื่อวันอาทิตย์

Patients line up at the Royal Melbourne Hospital for Coronavirus testing. Source: AAP

ขณะนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 5 รายในเย็นวันอาทิตย์ หลังจากหญิง 2 รายวัย 77 ปีและ 90 ปีเสียชีวิตเมื่อวานนี้ ส่วนจำนวนผู้ที่ถูกยืนยันว่าติดเชื้อนี้ทั่วประเทศออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 300 ราย

ขณะที่ นางกลาดิส เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ขอให้ประชาชนระมัดระวังและอย่างประมาทในเรื่องสุขภาพของตนเองและผู้อื่น

“อย่าคิดถึงแค่ตัวเองหรือครอบครัวตัวเองเท่านั้น แต่คุณอาจแพร่เชื้อให้ผู้อื่นและทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้อย่างไม่ตั้งใจอีกมากมายหลายคน”

“เรารู้ว่าโดยเฉพาะผู้สูงอายุนั้นมีความเสี่ยงอย่างมากต่อเชื้อนี้”

“นี่เป็นเรื่องของความเป็นความตาย”

จำนวนผู้ถูกยืนยันว่าติดเชื้อในนิวเซาท์เวลส์ เพิ่มขึ้นอีก 22 รายในเช้าวันอาทิตย์ ส่งผลให้จำนวนผู้ถูกยืนยันว่าติดเชื้อทั้งหมดในนิวเซาท์เวลส์ มีจำนวน 134 ราย

ขณะที่ทั้งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ และมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ ต่างยืนยันเมื่อวานนี้ว่า แต่ละมหาวิทยาลัยมีนักเรียน 1 คน ที่ถูกตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัสโคโรนา

ขณะเดียวกัน นายแบรด ฮาซเซิร์ด รัฐมนตรีด้านสุขภาพของนิวเซาท์เวลส์ ประกาศในวันจันทร์ เขาขอออกคำสั่งภายใต้พระราชบัญญัติสาธารณสุขปี 2010 ให้ยกเลิกการจัดงานสาธารณะที่เป็นการชุมนุมของผู้คนมากกว่า 500 คนทุกงานในทันที

ผู้ใดที่ฝ่าฝืนคำสั่งมีโทษจำคุกสูงสุด 6 เดือนและปรับ 11,000 ดอลลาร์ หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่หากผู้ฝ่าฝืนเป็นบริษัทจะเผชิญโทษปรับที่หนักกว่านี้ นายฮาซเซิร์ด กล่าว

อาการของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ปรากฎในผู้ติดเชื้อนั้นแตกต่างกันไป ตั้งแต่มีอาการไม่สบายเล็กน้อย ไปจนถึงมีอาการปอดบวม แต่จากเว็บไซต์ของรัฐบาลสหพันธรัฐออสเตรเลีย ระบุว่า อาการของเชื้อไวรัสโคโรนา อาจรวมไปถึงการมีไข้ ไอ เจ็บคอ อ่อนเพลีย และหายใจเหนื่อยหอบ (หายใจลำบาก)

มีคำแนะนำว่า ผู้ใดที่เชื่อว่าตนอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาควรโทรศัพท์ปรึกษาแพทย์ประจำตัว ก่อนไปหาแพทย์ หรือให้โทรศัพท์ไปรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วย ข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา ที่หมายเลข 1800 020 080