Explainer

ผลตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์? ประกันการเดินทาง? ต้องมีอะไรบ้างหากจะเดินทางไปต่างประเทศ

รัฐบาลออสเตรเลียได้ยกเลิกการห้ามเดินทางไปต่างประเทศเป็นบางประเทศสำหรับพลเมืองและผู้อยู่อาศัยถาวรที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว แต่ยังคงมีบางอย่างเพิ่มเติมที่ต้องพิจารณาก่อนที่คุณจะเดินทางไปที่สนามบิน

Graphic showing a traveller with passport, mask and PCR test.

Fully vaccinated Australians and permanent residents can now jet overseas, provided they tick the boxes in terms of travel requirements. Source: SBS News

ใครที่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้?

เฉพาะพลเมืองออสเตรเลียและผู้อยู่อาศัยถาวรที่ได้รับวัคซีนต้านโควิดครบสองโดสแล้วเท่านั้นที่สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ ชาวออสเตรเลียที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีและผู้ที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ จำเป็นต้องยื่นเพื่อออกจากออสเตรเลีย

นายเกร็ก ฮันต์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของสหพันธรัฐ กล่าวว่า ในขั้นนี้ผู้คนในออสเตรเลียไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนโควิดเข็มกระตุ้น (booster shot) ก่อนเดินทาง

วัคซีนใดบ้างที่ได้รับการยอมรับ?

ในการเดินทางกลับมายังออสเตรเลีย รัฐบาลออสเตรเลียจะถือว่าคุณรับการฉีดวัคซีนแล้วก็ต่อเมื่อคุณได้รับการฉีดวัคซีนตัวใดตัวหนึ่งที่ได้รับการอนุมัติ (approved) หรือยอมรับ (recognised) โดยคณะกรรมาธิการควบคุมดูแลผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพของออสเตรเลีย (Therapeutic Goods Administration หรือ TGA) วัคซีนเหล่านี้ ได้แก่ วัคซีนแอสตราเซเนกา ไฟเซอร์ โมเดอร์นา ซิโนแวค โควาซิน (Covaxin) และซิโนฟาร์ม โดยต้องได้รับวัคซีนโดสที่สองไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน ทีจีเอกำลังประเมินวัคซีนต้านโควิด-19 ตัวอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลล่าสุด โปรดไปที่

เดินทางไปไหนได้บ้าง?

สถานการณ์ด้านการเดินทางนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่ขณะนี้ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ไทย สเปน อิตาลี โปรตุเกส เยอรมนี สิงคโปร์ อาร์เจนตินา และชิลี เป็นจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศที่ชาวออสเตรเลียสามารถเดินทางไปได้แล้วในตอนนี้ ส่วน ฟิจิ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้อยู่ในระหว่างการพิจารณาซึ่งชาวออสเตรเลียอาจเดินทางไปได้ปลายปีนี้ และต้นปีหน้าอาจเดินทางไปยังญี่ปุ่นและอินเดียได้ สำหรับข้อมูลล่าสุด ให้ไปที่

ต้องมีหลักฐานอะไรบ้างจึงจะเดินทางออกจากออสเตรเลียได้?

“หากคุณจะเดินทางไปต่างประเทศในอีกสองเดือนข้างหน้า แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องมีเอกสารบางอย่างเพิ่มเติม” คุณดีน ลอง ซีอีโอของสหพันธ์ตัวแทนการท่องเที่ยวแห่งออสเตรเลีย (Australian Federation of Travel Agents) กล่าว

นอกจากหนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานอยู่ บัตรโดยสารเครื่องบิน หรือบางประเทศต้องมีวีซ่าของประเทศที่คุณกำลังจะเดินทางไปเยือนแล้ว คุณจะต้องแสดงเอกสารต่อไปนี้เมื่อคุณเดินทางออกจากออสเตรเลีย

1. หลักฐานการฉีดวัคซีน: คุณจะต้องแสดงใบรับรองระหว่างประเทศสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 (International COVID-19 Vaccination Certificate หรือ ICVC) ต่อเจ้าหน้าที่เช็คอินที่สนามบินเพื่อพิสูจน์ว่าคุณได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว คุณสามารถรับ ICVC ได้โดยใช้ (ผ่านพอร์ทัล ) หรือโดยใช้แอปพลิเคชัน คุณสามารถอ่านคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีรับ ICVC โดยใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ใน นี้

“ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือเดินทางของคุณมีอายุใช้งานได้ และหากคุณมีหนังสือเดินทางสองของประเทศอื่นด้วย ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหนังสือเดินทางของคุณทั้งสองเล่มมีหลักฐานการฉีดวัคซีนสำหรับหนังสือเดินทางเหล่านั้น” คุณลองกล่าว “และต้องแน่ใจว่าคุณเผื่อเวลาไว้ที่สนามบินที่คุณจะขึ้นเครื่อง”

2. หลักฐานการยกเว้นการเดินทาง: คุณจะต้องใช้ใบยกเว้นการเดินทางหากคุณไม่ได้รับการฉีดวัคซีน

3. ผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ (PCR)ที่เป็นลบ: แม้ว่ารัฐบาลออสเตรเลียไม่ได้กำหนดให้คุณต้องมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ ที่เป็นลบเมื่อเดินทางออกจากออสเตรเลีย แต่บางสายการบิน เช่น ควอนตัส (Qantas) อาจมีข้อกำหนดนี้ หากเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องแสดงหลักฐานตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ ที่เป็นลบ เมื่อเช็คอิน
Tourists visit a temple in Bangkok.
Thailand has recently reopened its doors to tourists from 63 countries, including Australia. Source: AAP

คุณใช้หลักฐานอะไรบ้างในการเข้าประเทศอื่นๆ ?

ประเทศต่างๆ มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันในการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปได้ในยุคหลังล็อกดาวน์ ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันสหราชอาณาจักรกำหนดให้นักเดินทางต้องจองการตรวจเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ในสหราชอาณาจักรก่อน จึงจะสามารถเดินทางออกจากออสเตรเลียได้

จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือ ซึ่งคุณสามารถป้อนชื่อประเทศจุดปลายทางของคุณลงในระบบและค้นหาคำแนะนำการเดินทางที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 โดยเฉพาะสำหรับประเทศที่คุณกำลังจะเดินทางไป อย่างไรก็ตาม ประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงกฎการเดินทางเกี่ยวกับโควิด-19 อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละประเทศก่อนจองการเดินทางของคุณ

เอสบีเอสไทย: สำหรับประเทศไทยนั้น ได้อนุญาตให้ผู้คนจาก 63 ประเทศรวมทั้งออสเตรเลีย เดินทางเข้าไปประเทศไทยได้ โดยปรับลดระยะเวลากักตัวลงเหลือเพียง 1 วัน หากผู้เดินทางได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ตามโครงการที่เรียกว่า “Test and Go Scheme”

ผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ต้องลงทะเบียนและอัปโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้องผ่านระบบ Thailand Pass ได้ที่ อย่างน้อย 7 วันก่อนวันเดินทาง เอกสารที่ต้องใช้ได้แก่ หนังสือเดินทาง บัตรโดยสารเครื่องบิน เอกสารว่าคุณได้รับการฉีดวัคซีนแล้วหรือ Vaccine Certificate และเอกสารสำรองที่พัก 1 คืนโดยชำระค่าที่พักแล้ว (ในโรงแรมในเครือ Alternative Quarantine หรือ SHA+) และสำหรับคนต่างชาติต้องมีประกันภัยที่มีวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนคนไทยไม่ต้องมี เมื่อกรอกเข้าไปยังระบบฐานข้อมูลนี้แล้ว กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขของไทยจะอนุมัติเอกสารทั้งหมด คุณก็จะได้รับไทยแลนด์พาสส์ คิวอาร์ โค้ด (Thailand Pass QR Code) เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าประเทศไทย

การตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์คืออะไร?

PCR ย่อมาจาก polymerase chain reaction หรือปฏิกิริยาลูกโซ่โพลีเมอเรส ซึ่งเป็นกระบวนการสังเคราะห์ชิ้นส่วนดีเอ็นอีในหลอดทดลอง และการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการตัดสินว่าคุณติดเชื้อโควิด-19 (มีผลการตรวจเชื้อเป็นบวก) หรือไม่ติดเชื้อ (มีผลการตรวจเชื้อเป็นลบ)

พลเมืองออสเตรเลียและผู้อยู่อาศัยถาวรที่จะเดินทางไปต่างประเทศไม่จำเป็นต้องแสดงผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ ที่มีผลเป็นลบเมื่อทำการเช็คอินที่สนามบิน ยกเว้นกรณีที่สายการบินหรือประเทศปลายทางกำหนด

แม้ว่าการตรวจเชื้อด้วยอุปกรณ์ตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็ว (Rapid Antigen Tests  หรือ RAT) จะสามารถทำได้เช่นกัน เพื่อบ่งชี้ว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ แต่การตรวจเชื้อในรูปแบบนี้ไม่แม่นยำเท่าการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ ดังนั้นผลการตรวจเชื้อแบบทราบผลรวดเร็วจึงไม่ได้รับการยอมรับที่สนามบินนานาชาติในออสเตรเลีย

ควรไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์เมื่อใด?

การตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์ (PCR test) สามารถทำได้ล่วงหน้านานที่สุด 3 วันก่อนก่อนกำหนดการเดินทาง โดยส่วนใหญ่ จะได้ทราบผลการตรวจเชื้อภายใน 24 ชั่วโมงหลังไปรับการตรวจ

เพื่อลดโอกาสที่คุณอาจติดเชื้อหลังไปรับการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์แล้ว รัฐบาลออสเตรเลียแนะนำให้คุณลดการพบปะกับผู้อื่นให้มากที่สุดหลังจากที่ไปรับการตรวจเชื้อและก่อนขึ้นเครื่อง
A passenger from a United Airlines flight from Frankfurt, Germany arrives at O'Hare International Airport in Chicago, USA on 8 November 2021.
A passenger from a United Airlines flight from Frankfurt, Germany arrives at O'Hare International Airport in Chicago, USA on 8 November 2021. Source: EPA

คุณจะไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ได้ที่ไหน?

การตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์นั้นฟรีและมีให้บริการในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย

คุณสามารถค้นหาว่าจะไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ได้ที่ใดบ้างใกล้บ้านคุณได้ที่ลิงก์ต่อไปนี้: และ

ในผลการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ ต้องมีข้อมูล 4 ส่วนต่อไปนี้:

1. ชื่อและวันเดือนปีเกิดของผู้เดินทาง (หรืออายุ ณ เวลาที่ตรวจเชื้อหรือหมายเลขหนังสือเดินทาง)

2. ผลการตรวจเชื้อ

3. วิธีตรวจเชื้อที่ใช้

4. วันที่ตรวจเชื้อ

มีบริษัทหนึ่งคือ Histopath ที่เสนอบริการแบบที่พวกเขากล่าวว่าเป็น "การทดสอบแบบพีซีอาร์ที่เร็วที่สุดในโลก" ด้วยที่สนามบินนานาชาติซิดนีย์และสนามบินทัลลามารีน ในเมลเบิร์น โดยบริการนี้รับประกันทราบผลการตรวจเชื้อภายใน 60 นาที โดยมีค่าบริการ 150 ดอลลาร์ต่อคน

แม้ว่ารัฐบาลจะแนะนำให้นักเดินทางนำผลการตรวจเชื้อที่เป็นหลักฐานกระดาษไปยังสนามบิน แต่หลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ข้อความทางโทรศัพท์มือถือที่มีข้อมูลที่จำเป็นก็สามารถใช้ได้เช่นกั

จะเกิดอะไรขึ้นหากพบผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก?

รัฐบาลออสเตรเลียแนะนำอย่างยิ่งให้ทุกคนที่พบผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และผู้ที่ถูกระบุเป็นผู้พบปะใกล้ชิดกับพวกเขา (close contacts) ต้องไม่ไปที่สนามบิน และให้โทรศัพท์ติดต่อสายการบินของคุณเพื่อเปลี่ยนกำหนดการเดินทางหรือเลื่อนเที่ยวบิน

การที่สายการบินจะเปลี่ยนเที่ยวบินให้คุณหรือคืนเงินให้คุณนั้น “ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับตั๋วเครื่องบินที่คุณได้ซื้อไป ไม่มีแนวทางใดที่ใช้ได้กับทุกคนและมีความเสี่ยงในการเดินทางในขณะนี้” คุณลองกล่าว ดังนั้น จึงสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องอ่านเงื่อนไขละเอียดของสายการบินและที่พักเมื่อวางแผนการเดินทางไปต่างประเทศ

การเดินทางกลับมายังออสเตรเลีย

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งสำคัญสองสามอย่างที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อคุณจะเดินทางกลับออสเตรเลีย

1. Australia Travel Declaration: คุณต้องกรอกแบบฟอร์มแสดงความจำนงเพื่อเดินทางเข้าออสเตรเลีย หรือที่เรียกว่า อย่างน้อย 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง

2. มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 แบบพีซีอาร์เป็นลบ: คุณสามารถไปรับการตรวจเชื้อแบบพีซีอาร์ล่วงหน้านานที่สุด 3 วันก่อนวันเดินทาง ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรับการตรวจเชื้อจากศูนย์ตรวจเชื้อที่ได้รับการรับรองในต่างประเทศเท่านั้น มีข้อกำหนดว่าคุณต้องมีผลการตรวจเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์ที่มีผลเป็นลบเท่านั้น จึงจะสามารถขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางมายังออสเตรเลียได้

ระยะห่างระหว่างที่นั่งบนเครื่องบินแตกต่างกันไปในแต่ละสายการบิน แต่มีข้อกำหนดให้ผู้คนต้องสวมหน้ากากอนามัยที่สนามบินของออสเตรเลีย และภายในเครื่องบินของสายการบินหลักส่วนใหญ่ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยและการจัดที่นั่งภายในเครื่องบิน โปรดติดต่อสายการบินของคุณ

จะเกิดอะไรขึ้นหากติดโควิดในต่างประเทศ?

ตามข้อกำหนดของรัฐบาลออสเตรเลีย คุณจะต้องรอจนกว่าคุณจะมีผลการตรวจเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์เป็นลบในต่างประเทศ ก่อนที่คุณจะสามารถขึ้นเครื่องบินมายังออสเตรเลียได้

“หากคุณติดเชื้อโควิดขณะที่อยู่ในต่างประเทศ คุณต้องปฏิบัติตามคำสั่งด้านสุขภาพของประเทศนั้น ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้จะแตกต่างกันไป ข่าวดีก็คือถ้าคุณใช้บริการจากเอเจนต์หรือจากธุรกิจท่องเที่ยว พวกเขาจะสามารถช่วยเหลือคุณในการดำเนินการตามกระบวนการเหล่านั้นได้” คุณลอง กล่าว

แล้วประกันการเดินทางล่ะ?

เว็บไซต์ ได้แนะนำอย่างยิ่งให้ชาวออสเตรเลียทุกคนที่เดินทางไปต่างประเทศควรมีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมทุกอย่าง (comprehensive travel insurance) เพื่อคุ้มครองในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเดินทางระหว่างประเทศสามารถทำได้อีกครั้ง บางบริษัทให้ความคุ้มครองกรณีโควิด-19 อย่างจำกัด ซึ่งหมายความว่า แม้อาจครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกักตัวและการยกเลิกการเดินทาง แต่อาจไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกต่างๆ เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลและการห้ามเดินทางในออสเตรเลียหรือในประเทศอื่นๆ

ดังนั้น ต้องพยายามทำให้แน่ใจว่า คุณได้ตรวจสอบเงื่อนไขการประกันของบริษัทผู้รับประกัน ก่อนตัดสินใจซื้อประกัน

แต่อย่างที่คุณลองกล่าว “มีความคุ้มครองที่ให้ความช่วยเหลือในกรณีที่เกิดการหยุดชะงักอันเนื่องมาจากโควิด แต่นักเดินทางจำเป็นต้องพูดคุยกับบริษัทประกันภัยและอ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียด”


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์  บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ 
เรื่องราวที่น่าสนใจจากเอสบีเอส ไทย

เล่ห์เหลี่ยมใหม่ของนักต้มตุ๋นที่ทุกคนต้องระวัง


Share
Published 15 November 2021 12:13pm
Updated 15 November 2021 12:30pm
By Akash Arora
Presented by Parisuth Sodsai
Source: SBS News


Share this with family and friends