ราคาช็อกโกแลตที่พุ่งสูงอาจทำอีสเตอร์ปีนี้กร่อย

Off The Charts Costly Chocolate

ผู้คนที่ซื้อช็อกโกแลตสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ปีนี้อาจต้องจ่ายมากขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากราคาคาเคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ Source: AAP / Virginia Mayo/AP

ขณะที่เทศกาลอีสเตอร์กำลังมาถึง มีคำเตือนถึงผู้คนในออสเตรเลียว่าราคาช็อกโกแลตกำลังสูงขึ้น เพราะส่วนผสมหลักที่ใช้ทำช็อกโกแลตคือ เมล็ดโกโก้มีราคาพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์


คนรักช็อกโกแลตทั่วออสเตรเลียคงกำลังรู้สึกถึงความเจ็บปวด เนื่องจากช็อกโกแลตบนชั้นวางตามร้านค้ากำลังมีราคาสูงขึ้นในช่วงเข้าสู่เทศกาลอีสเตอร์

ข้อมูลใหม่จาก RaboBank ซึ่งเป็นบริษัทธนาคารระดับโลกสำหรับธุรกิจการเกษตร กล่าวว่า ต้นทุนของเมล็ดโกโก้ ซึ่งส่วนผสมหลักของช็อกโกแลตเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าในปี 2024 ส่งผลให้ราคาขายปลีกช็อกโกแลตในออสเตรเลียพุ่งสูงขึ้น 8.8 เปอร์เซ็นต์จากปีที่แล้ว

คุณเปีย พิกกอตต์ นักวิเคราะห์ของ RaboBank กล่าวว่า ราคาที่สูงขึ้นของเมล็ดโกโก้จะส่งผลกระทบต่อช็อกโกแลตสำหรับเทศกาลอีสเตอร์ด้วย

"ในช่วงอีสเตอร์ เราได้เห็นอัตราเงินเฟ้อเช่นกันที่ประมาณ 7.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่าช็อกโกแลตทั่วไปเล็กน้อย แต่นั่นเป็นเพราะช็อกโกแลตอีสเตอร์มีราคาสูงกว่าช็อกโกแลตทั่วไปอยู่แล้ว อีกทั้งเรายังเห็นภาวะสินค้ามีปริมาณลดลงเพราะเงินเฟ้อในหมวดสินค้าอีสเตอร์ด้วย ซึ่งราคายังคงเท่าเดิมแต่ปริมาณลดลง" คุณ พิกกอตต์ เปิดเผย

ในสัปดาห์นี้ ราคาเมล็ดโกโก้ทำลายสถิติ โดยพุ่งทะลุ 15,400 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ต่อตันในตลาด New York Futures Exchange ทำให้ตอนนี้เมล็ดโกโก้มีราคาแพงกว่าวัสดุอื่น ๆ เช่น ทองแดง

ราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้เกิดจากฤดูเก็บเกี่ยวที่ไม่ดีนักในแอฟริกา

เมล็ดโกโก้นั้นส่วนใหญ่ผลิตในแอฟริกาตะวันตก โดยไอวอรีโคสต์และกานาเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดสองราย คิดเป็นเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของอุปทานทั่วโลก องค์การโกโก้นานาชาติ (International Cocoa Organisation) ระบุ

คุณ พิกกอตต์ กล่าวว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งผลต่อการผลิต

"สิ่งที่จำกัดอุปทานโกโก้ก็คือ สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ต้นโกโก้ที่อายุมาก และโรคในต้นโกโก้ รวมถึงกฎระเบียบของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการตัดไม้ทำลายป่า" คุณพิกกอตต์ อธิบาย

องค์การโกโก้ระหว่างประเทศกล่าวว่า คาดว่าจะเห็นอุปทานเมล็ดโกโก้ทั่วโลกลดลงอีกเกือบ 11 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาล 2023/2024 เนื่องจากปัญหาต่อเนื่องที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศและโรค

การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญนี้ส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยมีผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกช็อกโกแลต รวมถึงตัวผู้บริโภคเองด้วย

คุณอาร์เทอร์ ลาซารู เป็นเจ้าของร้านผลิตช็อคโกแลต ChocolArts ในย่านชานเมืองเกลดส์วิลล์ (Gladesville) ของซิดนีย์ เขาบอกว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับธุรกิจของเขา แต่เขารู้สึกว่าเกษตรกรเป็นศูนย์กลางของปัญหาการขาดแคลนเมล็ดโกโก้

"เราเห็นการที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราเข้าใจว่าเพราะอะไร เราเคยไปที่กานาและอยู่ที่นั่นนานพอสมควร โดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาเป็นเกษตรกรรายย่อยที่หาเลี้ยงชีพจากพื้นที่สองเอเคอร์และเพาะปลูกและดูแลต้นโกโก้ 9 เดือนต่อปี มันยากลำบากมาก" คุณลาซารู กล่าว
เขากล่าวต่อไปว่า บริษัท ChocolArts ของเขานั้นมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้เพียงปีเดียว

เขาบอกว่าพวกเขาถูกบีบให้ต้องส่งต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้นนี้บางส่วนไปยังผู้บริโภค แต่พวกเขาได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่ามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายในราคาที่แตกต่างกัน

"ลูกค้าของเรายอดเยี่ยมมาก - พวกเขาเข้าใจว่าช็อคโกแลตของเรามาจากไหนและผลิตอย่างไร และพวกเขาชื่นชอบผลิตภัณฑ์และคุณภาพของช็อคโกแลต จากมุมมองของเรา สิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทำได้คือทำให้แน่ใจได้ว่าเรามีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ผลิตภัณฑ์ที่นี่นั้นลูกค้าสามารถเดินเข้ามาในร้านและสามารถใช้เงิน 5.50 ดอลลาร์หรือ 150 ดอลลาร์ก็ได้" คุณลาซารู ยกตัวอย่าง

กลุ่มเพื่อผู้บริโภค Finder กล่าวว่า ผู้บริโภคโดยเฉลี่ยใช้จ่ายเงินประมาณ 62 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับช็อกโกแลตในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ โดยราคาที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อตัวเลขดังกล่าว

และจากแนวโน้มการผลิตเมล็ดโกโก้ในปัจจุบัน คุณอดัม สมิธ ซีอีโอ ของ Saxo Bank Australia กล่าวว่าราคาเหล่านั้นไม่น่าจะลดลงในเร็ว ๆ นี้

"ผมไม่คิดว่าเราจะเห็นราคาที่ลดลงจนกว่าหนึ่งในสองสิ่งต่อไปนี้จะเกิดขึ้น นั่นคือการผลิตกลับมาสู่ระดับปกติมากขึ้น หรือเราเห็นราคาเพิ่มสูงขึ้นจนไปถึงจุดที่ความต้องการสินค้าลดลง" คุณสมิธ คาดการณ์


คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ sbs.com.au/thai


บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่ facebook.com/sbsthai

Share