ออสเตรเลียเตรียมตั้งรับไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-5-N-1 ที่แพร่ระบาดทั่วโลก

AVIAN INFLUENZA STOCK

ภาพถ่ายเมื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567 แสดงให้เห็นป้ายพื้นที่กักกันโรค หลังจากการระบาดของไข้หวัดนกในรัฐวิกตอเรีย. (AAP Image/Supplied by Department of Energy, Environment and Climate Action) NO ARCHIVING, EDITORIAL USE ONLY Credit: SUPPLIED BY DEPARTMENT OF ENERGY/PR IMAGE

Get the SBS Audio app

Other ways to listen

ศูนย์เตรียมความพร้อมสำหรับโรคระบาดแห่งออสเตรเลีย (ACDP) กำลังเตรียมพร้อมสำหรับตั้งรับไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-5-N-1 ACDP มีบทบาทสำคัญในระดับโลกในการติดตามและเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก ได้จัดเวทีเพื่ออธิบายว่าโรคไข้หวัดนกคืออะไร และมีการเตรียมความพร้อมอย่างไรต่อการระบาดของสายพันธุ์ใหม่


กด ▶ ฟังพอดคาสต์ด้านบน


ผลกระทบของไข้หวัดนกในออสเตรเลีย ไม่เพียงแต่ทำให้ไข่ขาดแคลน แต่พบว่ายังมีการระบาดไปยังฟาร์มต่างๆ ในหลายพื้นที่ของออสเตรเลียอีกด้วย

ศูนย์เตรียมความพร้อมสำหรับโรคระบาดแห่งออสเตรเลีย หรือ Australian Centre for Disease Preparationness หรือ ACDP เป็นผู้นำในเรื่องการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับไข้หวัดนก

และเมื่อไม่นานมานี้ ACDP ตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-5-N-1 ในประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือและตอนใต้ของออสเตรเลีย แต่ยังไม่พบในออสเตรเลีย

อย่างไรก็ตาม ดร.เดโบราห์ อีเกิลส์กล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียกำลังเตรียมการ ตั้งรับกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ดังกล่าว

 “ไข้หวัดนกกำลังส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อทั่วโลกและรวมถึงออสเตรเลีย สายพันธุ์ที่ระบาดมากที่สุดในตอนนี้คือไวรัสตระกูล H5 และนักวิทยาศาสตร์รู้จักสายพันธุ์ดังกล่าว โดยเฉพาะในสายพันธฺุ์ H-5-N-1- 2.3 .4.4-B ขณะนี้สิ่งนี้ส่งผลกระทบไปทั่วโลกรวมถึงทวีปแอนตาร์กติกา แต่ยังมาไม่ถึงออสเตรเลีย"

"การระบาดดังกล่าวส่งผลให้สัตว์ปีก นกป่า และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดเสียชีวิต ตอนนี้ทั้งภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง ภาคเกษตรกรรม สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมต่างก็เตรียมการตั้งรับกับการระบาดของไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-5-N-1 ที่อาจแพร่มายังออสเตรเลีย”]] ดร.เดโบราห์ อีเกิลส์ อธิบายถึงสถานการณ์ล่าสุด"


Bird Flu
ศูนย์เตรียมความพร้อมสำหรับโรคระบาดแห่งออสเตรเลีย (ACDP) กำลังเตรียมพร้อมสำหรับตั้งรับไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-5-N-1 Credit: Peter Garrard Beck/Getty Images

 ผลการวิจัยล่าสุดระบุว่าในออสเตรเลีย มีการระบาดของไข้หวัดนกในสายพันธุ์ที่ต่างกันออกไปถึง 3 ครั้ง

 ดร.อีเกิลส์กล่าวว่าในรัฐวิกตอเรีย มีการยืนยันการพบเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H-7-N-3 ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อสูง และในพื้นที่อื่นๆของออสเตรเลีย ก็มีรายงานการพบไข้หวัดนกในสายพันธุ์ที่ต่างกันออกไป

 "ออสเตรเลียพบการระบาดของไข้หวัดนกที่มีโอกาสในการกระจายเชื้อสูง 3 สายพันธุ์ถึงสามครั้ง และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ตั้งแต่ปี 1976 ออสเตรเลียมีการระบาดของโรคไข้หวัดนกในสัตว์ปีก แปดครั้ง"


ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกความแตกต่างระหว่างไข้หวัดนกสายพันธุ์เหล่านี้ได้อย่างไร

คำตอบก็คือ ลำดับทางพันธุกรรม นักวิทยาศาสตร์จะวิเคราะห์ R-N-A ของไวรัส เพื่อระบุเครื่องหมาย ดี เอ็น เอ เฉพาะตัวที่ทำให้บอกได้ว่าไวรัสที่พบเป็นสายพันธุ์ใด

 การศึกษาพันธุกรรมนี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถติดตามวิวัฒนาการของไวรัสและทำความเข้าใจว่ามันแพร่กระจายได้อย่างไร อีกด้วย

 ACDP ใช้เทคโนโลยีนี้ เพื่อทำการประชาสัมพันธุ์ข้อมูลสำคัญต่างๆ ในกระบวนการควบคุมการระบาดในออสเตรเลีย
นักวิทยาศาสตร์วิจัยอาวุโสที่ A-D-C-P ดร.แฟรงก์ หว่อง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาพันธุกรรมนี้ว่า

"สิ่งสำคัญคือไวรัสไข้หวัดนกนั้นตั้งชื่อตามลักษณะของโปรตีนที่อยู่บนผิวของไวรัส ดังนั้น เราจึงแบ่งเป็นสายพันธุ์ H-5-N-1 หรือ H-7N-3, H-7- N-8-N และอื่นๆ โปรตีนบนพื้นผิวของไวรัสไข้หวัดใหญ่จึงมีลักษณะคล้ายกับโปรตีนหนามของโควิดที่เราคุ้นเคยกันดี"

ต้นกำเนิดของการระบาดของไข้หวัดนกในปัจจุบันมีมาตั้งแต่ปี 1996 ซึ่งเป็นช่วงที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A หรือรู้จักกันในชื่อ H-5-N-1 ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Chickens
ออสเตรเลียพบการระบาดของไข้หวัดนกที่มีโอกาสในการกระจายเชื้อสูง 3 สายพันธุ์ถึงสามครั้ง และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม Source: Pixabay

ในอดีตออสเตรเลียมีการป้องกัน เฝ้าระวัง โรคไข้หวัดนกที่ก่อให้เกิดโรคสูง เนื่องจากมีการแพร่กระจายโดยการอพยพเป็ด ห่าน และหงส์จากเอเชีย

อย่างไรก็ตาม โอกาสที่นกจากเอเชีย จะแพร่เชื้อให้แก่นกอพยพ ก็เป็นช่องทางที่จะนำไวรัสมายังออสเตรเลียได้ ดร.แฟรงก์ หว่อง เปิดเผยว่า

 "เป็ดและห่านป่า เป็นแหล่งเชื้อโรคตามธรรมชาติของไวรัสไข้หวัดนกทุกชนิด ซึ่งส่วนใหญ่มีอยู่เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคต่ำ ทำให้ไม่มีอาการของโรค แต่เมื่อไวรัสไข้หวัดนก H5 และ H7 แพร่จากสัตว์ป่าไปสู่ไก่ในฟาร์ม ก็อาจมีเชื้อไข้หวัดนกที่ทำให้เกิดโรคสูงเข้ามาด้วย และเมื่้อมีการกลายพันธุ์ของไวรัส มันก็นำไปสู่การระบาดของสายพันธุ์ H7 ที่ร้ายแรง เช่นที่เราเพิ่งพบเห็นในรัฐวิกตอเรีย นิวเซาธ์เวลส์ และ ACT"] ] ดร.หว่อง ฮะบานที่มาของการเกิดไข้หวัดนกในออสเตรเลีย


 องค์กร A-C-D-P มีบทบาทสำคัญในการติดตามและเฝ้าระวัง การแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ทั้งในออสเตรเลียและในระดับโลก

 นอกจากนั้น A-C-D-P ร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศเพื่อแบ่งปันข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับไข้หวัดนกด้วย

ดร. Wong กล่าวว่าความร่วมมือนี้ช่วยติดตามการแพร่กระจายของไวรัสไข้หวัดนกทั่วโลก และพัฒนากลยุทธ์ในการบรรเทาผลกระทบจากการระบาดดังกล่าว

 "โปรแกรมนี้จึงดำเนินการอย่างแข็งขัน เรามีการเฝ้าระวังไวรัสไข้หวัดนกจากตัวอย่างนกป่าที่รวบรวมในแต่ละรัฐและมณฑลทั่วออสเตรเลีย และนี่เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจาก ช่วยให้เราสามารถรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับไวรัสที่เรารู้จักในนกป่าในประเทศได้ และช่วยให้เราสามารถดำเนินการ ในสิ่งที่เราเรียกว่าการเฝ้าระวังจีโนม ซึ่งในอกจากเป็นฐานข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสที่เราพบในออสเตรเลียแล้วยังสามารถทำให้เราเตรียมการเฝ้าระวังไวรัสชนิดใหม่ที่อาจแพร่มาในออสเตรเลียได้"



คุณสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดจากออสเตรเลียและทั่วโลกเป็นภาษาไทยจากเอสบีเอส ไทย ได้ที่เว็บไซต์ 



บันทึกเว็บไซต์ของเราเก็บไว้ในบุ๊กมาร์ก เพื่อไม่ให้คุณพลาดสถานการณ์ล่าสุด หรือติดตามเราทางเฟซบุ๊กที่  


 

 



 

 


Share